KLEAR คือ ความต้องการที่จะเป็นตัวแทนในการสื่อสาร ความจริงของมนุษย์ในเรื่องความเปราะบางและหลากหลายของอารมณ์ ว่ามีทั้งความอ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง โศกเศร้าแต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเข้มแข็ง โกรธ และลุกขึ้นสู้จนถึงที่สุดได้เหมือนกัน โดยผ่านมุมมองของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไร้การเสแสร้ง หรือ บิดเบือนความรู้สึกของตัวเองทั้งสิ้น คือมีทั้งความรุนแรง เข้มแข็ง ดุดัน แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อายที่จะแสดงออกถึงความอ่อนไหว หรือ อ่อนแอ ไม่เกรงกลัวการร้องไห้ หรือกรีดร้องออกมาให้ทุกคนได้ยินมัน
KLEAR คือ ใคร
สี่คนรุ่นใหม่บนเส้นทางสายดนตรีที่มารวมกลุ่มกันโดยมีความฝันเป็นที่ตั้ง เริ่มต้นในปี 2545 จากการประกวดวงดนตรีในมหาวิทยาลัย KLEAR ผ่านการประกวดมาหลายเวที เช่น Bangkok Music Awards, Thailand University Music Awards หรือเวที GBOB ซึ่งในทุกเวที พวกเขาก็ได้คว้ารางวัลสำคัญ ๆ มากมาย รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมบนเวทีของเทศกาลดนตรีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Pattaya Music Festival, Fat Festival, Indy In Town เป็นต้น
จนวันหนึ่ง ทั้งสี่คนก็ได้พบกับ ต้า จากวง PARADOX และก็ร่วมทำ DEMO อัลบั้มของ KLEAR โดย ต้า รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์อัลบั้มนี้ และยังได้แนะนำวง KLEAR ให้เข้ามาคุยกับสังกัด genie records หลังจากนั้นไม่นาน KLEAR ก็เข้าเป็นศิลปินอย่างเต็มตัวภายใต้สังกัดจีนี่ภายในปี 2550 นี้เอง
KLEAR ประกอบด้วย
เกี้ยวเกล้า พูนชัย (แพท) ตำแหน่ง ร้องนำ
ณัฐวัฒน์ แสงวิจิตร (ณัฐ) ตำแหน่ง กีต้าร์
คียาภัทร โพธิ์วงศ์ไพรเลิศ (คี ) ตำแหน่ง เบส
นัฐ นิลวิเชียร (นัฐ) ตำแหน่ง กลอง
ปนัสฐ์ นาครำไพ (พ๊อยต์) ตำแหน่ง เปียโน
KLEAR เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะศิลปินหน้าใหม่ของจีนี่ เร็คคอร์ด โดยเป็นวงเปิดให้กับเวทีคอนเสิร์ต Bodyslam Save My Life เมื่อเดือนตุลาคม 2550 งานนั้นได้รับเสียงตอบรับจากแฟนเพลงอย่างอบอุ่น ด้วยน้ำเสียงของ แพท ที่สะกดคนทั้งฮอลล์ให้เคลิ้มไปกับบทเพลงของพวกเขา
แนวเพลงของ KLEAR
เป็นการรวมหลาย ๆ แนวเข้าด้วยกัน เช่น เมโลดี้ที่เปล่งเสียงอย่างหม่นเศร้าและโหยหวน มีกลิ่นไอของดนตรีแบบโกธิค (Gothic) แต่ในขณะเดียวกันบางเพลงออกเป็นแจ๊ส แต่ส่วนของกลองกลับเป็นร็อกมัน ๆ ลักษณะเด่นคือแพทเทิร์นกลองของมือซ้าย (นัฐ ? มือกลองเป็นคนถนัดซ้ายแต่สามารถตีได้ทั้ง 2 มือ) ทำให้เป็นไลน์กลองที่ไม่เหมือนใครและลอกเลียนแบบได้ยาก สำหรับไลน์เปียโน เป็นเปียโนในท่วงทำนองและกลิ่นอายดนตรีคลาสิคที่ผสมของเสียงซินธีไซเซอร์ ด้วย ซึ่งเสียงซินธีไซเซอร์นี้มาจากเบสซึ่งทำให้ตัวเพลงมีความน่าสนใจอย่างมาก
เป็นการรวมหลาย ๆ แนวเข้าด้วยกัน เช่น เมโลดี้ที่เปล่งเสียงอย่างหม่นเศร้าและโหยหวน มีกลิ่นไอของดนตรีแบบโกธิค (Gothic) แต่ในขณะเดียวกันบางเพลงออกเป็นแจ๊ส แต่ส่วนของกลองกลับเป็นร็อกมัน ๆ ลักษณะเด่นคือแพทเทิร์นกลองของมือซ้าย (นัฐ ? มือกลองเป็นคนถนัดซ้ายแต่สามารถตีได้ทั้ง 2 มือ) ทำให้เป็นไลน์กลองที่ไม่เหมือนใครและลอกเลียนแบบได้ยาก สำหรับไลน์เปียโน เป็นเปียโนในท่วงทำนองและกลิ่นอายดนตรีคลาสิคที่ผสมของเสียงซินธีไซเซอร์ ด้วย ซึ่งเสียงซินธีไซเซอร์นี้มาจากเบสซึ่งทำให้ตัวเพลงมีความน่าสนใจอย่างมาก
ผลงานอัลบั้มเต็ม
* Stay Alive (พ.ศ. 2551)
* Stay Alive (พ.ศ. 2551)
ผลงานอัลบั้มพิเศษ
* Experimental Album [EP] (พ.ศ. 2548)
* Tata Tomorrow (พ.ศ. 2549)
* Experimental Album [EP] (พ.ศ. 2548)
* Tata Tomorrow (พ.ศ. 2549)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น